สวัสดีครับค้าบบ วันแอดมินมารีวิวทริปหมู่บ้านรักไทย + ปาย จ. แม่ฮ่องสอน ให้เพื่อนๆได้ชมกันนะครับ ทริปนี้เราจัดเป็นประจำทุกปี แต่ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่จะมารีวิวให้ชมกัน การเล่าเรื่องจะเป็นแบบรวมๆ รูปภาพอาจจะไม่ได้เรียงไปตามวันที่หรือเนื้อหาที่เล่านะครับ
ทริปหมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นทริปที่ได้รับความนิยมมากอันดับต้นๆในบรรดาทริปที่เพจเราจัด ถึงแม้ว่าจะเป็นทริปที่นั่งรถยาว นั่งกันทั้งวันทั้งคืน แต่ความสวยงามของธรรมชาติที่ปลายทางนั้นก็ช่างยั่วยวนใจเสียจนอดรนทนไม่ได้ เปิดจองทีไรสมาชิกก็จะจับจองที่นั่งเข้ามากันจนเต็มไปเสียทุกครั้ง เดี๋ยวจะพาไปดูน้าา ว่ามันดีอย่างไร
รอบนี้เราเลือกเดินทางกันช่วงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่ยังมีฝนอยู่บ้าง อากาศยังไม่หนาวจัด ซึ่งส่วนตัวแล้วแอดมินรู้สึกว่าช่วงนี้แหละคือช่วงที่ดีที่สุดที่จะเที่ยวป่าเที่ยวเขา มันเป็นช่วงที่ธรรมชาติได้น้ำจากฝนและฟื้นตัวถึงขีดสุด ต้นไม้น้อยใหญ่ต่างๆที่เคยแห้งแล้งต่างก็ผลิดอกออกใบกันขึ้นมาอย่างมากมาย มองไปทางไหนก็มีแต่ใบไม้สีเขียวสด ท้องฟ้าก็มักจะมีหมอกบางๆลอยละล่องอยู่เกือบตลอดทั้งวัน อากาศไม่ร้อนไม่เย็น เรียกว่าเป็นช่วงเวลาสวรรค์สำหรับผืนป่ากันเลยทีเดียวล่ะครับ
DAY 1 - ออกเดินทาง
วันแรกของการเดินทาง เรามาจอดรถรอสมาชิกที่ลานจอดรถ BTS หมอชิตเหมือนเช่นเดิม ไม่นานสมาชิกก็แบกกระเป๋าคนละใบสองใบมาขึ้นรถ บางคนเป็นสมาชิกเก่าที่เคยร่วมทริปกันมาแล้ว บางคนก็เป็นสมาชิกใหม่ที่พึ่งเคยมา แรกๆก็อาจะเกร็งๆกันอยู่ ไม่ค่อยกล้าพูดคุยอะไรมาก แต่เดี๋ยวรอสนิทกันเมื่อไหร่ รับรอง เม้าท์กันกระจายแน่นอนจ้าา
เมื่อสมาชิกครบเราก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือกัน ระหว่างทางก็มีแวะปั๊มเพื่อเข้าห้องน้ำ ซื้อน้ำซื้อขนมตุนเสบียงกันตามแต่ละคนจะพอใจ พอเริ่มจะดึกทุกคนก็หลับกันหมด แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องคนขับรถนะ เพราะคนขับที่เราเลือกมานเขาชำนาญในการขับรถระยะไกลอยู่แล้ว และคนขับเองเขาก็ห่วงชีวิตและทรัพย์สินของเขาเช่นกัน เพราะงั้นเขาจะเตรียมตัวพร้อมและไม่ประมาทแน่นอนจ้าา
DAY 2 - วัดพระธาตุดอยกองมู - หมู่บ้านรักไทย
เช้ามืด รถตู้จะจอดที่ปั๊มให้สมาชิกล้างหน้าแปรงฟัน ทำธุระส่วนตัว ใครหิวจะแวะเข้าร้านสะดวกซื้อหาของกินก็ได้ แต่แนะนำว่าให้กินแค่รองท้องนะ เพราะว่าพอออกจากปั๊มไปเราก็จะพาไปกินข้าวเช้าแล้วจ้า เราเลือกกินมื้อเช้ากันที่ร้านอาหารด้านหน้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง ภายใต้อาคารหลังเดียวกันตรงนี้มีให้เลือกหลายร้าน แยกๆกันสั่งก็ไม่ต้องรอนาน รสชาติก็ถือว่าดี ราคาไม่แพง สรุปให้ผ่าน มาตามรอยกันได้นะ
หลังจากไหว้พระธาตุ ชมวิว ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ คราวนี้เราจะมุ่งหน้าสู่เป้าหมายหลักของเราซึ่งนั่นก็คือหมู่บ้านรักไทยนั่นเองครับ ระหว่างทางยังคงเหมือนเดิมคือเราจะผ่านป่าผ่านเขาตลอดทาง สำหรับคนที่รักธรรมชาติชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขาจะรักมากกับการเดินทางครั้งนี้ เพราะแค่ได้มองวิวข้างทางระหว่างขับรถก็เพลินแล้ว ยิ่งเข้าใกล้จุดหมายเท่าไหร่ ธรรมชาติสองข้างทางก็ยิ่งเข้าใกล้ตัวเรามากขึ้น ภูเขา แม่น้ำ สายหมอก ล้วนแล้วแต่ขยับเข้ามาใกล้จนบางครั้งเราขับรถผ่ากลางเข้าไปในหมอกแบบในหนังกันเลยด้วย และในที่สุดเราก็เดินทางถึงหมู่บ้านรักไทยกันซักทีจ้าาา
ที่พักของเราคือ ลีไวน์รักไทย ซึ่งเป็นที่พักที่โด่งดังอันดับต้นๆของหมู่บ้าน ที่พักที่นี่จะเป็นบ้านสไตล์จีนโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่ตามเนินเขาเตี้ยๆระหว่างทุ่งชาที่ปลูกไว้เป็นจำนวนมาก จากระเบียงหน้าบ้านสามารถมองลงมาที่ด้านล่างจะพบกับทะเลสาบในกลางหมู่บ้าน บรรยากาศดีแบบสุดๆไปเลย หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาอิสระที่สมาชิกสามารถเดินเล่นกันได้เอง แต่ใครที่มาคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงาเพราะทีมงานของเรารออยู่แล้ว มาเดินเล่นไปพร้อมๆกับทีมงานของเราได้เลย นอกจากไม่ต้องเหงาเดินเปล่าเปลี่ยนคนเดียวแล้วยังมีทีมงานของเราคอยถ่ายรูปให้อีกด้วย เห็นมะ ว่าคนเดียวก็มาได้แบบชิลๆ ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยจ้าา
บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะมีความเป็นหมู่บ้านชาวจีนคล้ายๆกับที่ดอยแม่สลอง แต่ที่นี่จะมีทะเลสาบอยู่ใจกลางหมู่บ้านด้วยก็เลยมีบรรยากาศที่แตกต่างกันนิดหน่อย ริมทะเลสาบจะมีร้านอาหาร ร้านของฝาก เรียงรายกันอยู่จำนวนมาก เราใช้เวลาว่างช่วงนี้เดินเล่น เดินชิมชา เลือกซื้อของฝาก เพลิดเพลินกันจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว สำหรับมื้อเย็นอาหารที่ไม่ควรพลาดก็คืออาหารจีนแบบยูนนาน มีหลากหลายเมนู เช่นขาหมูหมั่นโถว หมูพันปี ไก่ดำตุ๋นยาจีน และอื่นๆอีกมากมาย เมนูที่เราอยากแนะนำก็คือ ยำใบชา เป็นยำแบบธรรมดานี่แหละครับแต่ว่าส่วนผสมหลักก็คือการนำยอดชาที่เก็บได้มาใส่ไว้ด้วย รสชาติใช้ได้และก็แปลกดีครับ เพราะในกรุงเทพคงหายอดชาจำนวนมากมาทำยำแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆเป็นแน่
DAY 3 - ปาย
เราตื่นกันแต่เช้าเพราะมีสิ่งที่อยากจะทำครับ สิ่งนั้นก็คือการล่องเรือในทะเลสาบใจกลางหมู่บ้านรักไทย จริงๆแล้วการล่องเรือในทะเลสาบจะมีทั้งตอนเย็นและตอนเช้า ใครจะเลือกตอนไหนก็ได้ สวยงามทั้งเช้าและเย็นแน่นอน แต่เราเลือกตอนเช้าเพราะมีโอกาสที่จะได้เห็นหมอกสวยๆลอยขึ้นมาจากผิวน้ำสร้างบรรยากาศสุดมหัศจรรย์ให้ตื่นเต้นหัวใจ เรือที่เราจะนั่งเป็นเรือไม้ตกแต่งสไตล์จีนนั่งได้ประมาณ 4 คน มีคนพายให้ เราก็แค่นั่งจิบชาชิลๆดื่มด่ำกับธรรมชาติตรงหน้า ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าๆ ปล่อยวางความคิดแล้วก็หลับเพราะว่าง่วงนอน เห้ยย!! ไม่ใช่!!! เราต้องเก็บบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติครั้งนี้ไว้ให้ได้มากที่สุดต่างหากเล่า เพราะนานๆมาทีมันก็ต้องชาร์ตแบตเพิ่มพลังงานชีวิตให้กับตัวเองกันเยอะๆเนอะ
หลังจากทานมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาบอกลาหมู่บ้านรักไทยกันเสียที เราเก็บกระเป๋าขึ้นรถและเตรียมพร้อมออกเดินทาง บอกลาหมู่บ้านรักไทยอันสวยงามและสัญญาว่าจะต้องกลับมาใหม่ จากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อครับ ระหว่างทางแน่นอนว่าสองข้างทางยังคงเป็นป่า เป็นเขา ที่หาความเจริญยากยิ่ง แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ก็ติดๆดับๆบางช่วงก็มีบางช่วงก็หายไปเลย แต่ข้อดีคือเราได้เห็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ วิวภูเขาที่สวยงาม ต้นไม้ใบใหญ่ที่เขียวชอุ่ม หมอกขาวๆลอยแตะยอดเขาเกือบตลอดทั้งวัน ก็นี่แหละ ข้อดีของการเที่ยวช่วงนี้แหละครับ
เราแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ที่นี่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆของชาวบ้าน เป็นก๋วยเตี๋ยวหลักสิบที่รสชาติไม่ได้พิเศษใดๆ แต่วิวของร้านนี้ถ้าจะใช้คำว่าพิเศษก็อาจจะน้อยไป หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าก๋วยเตี๋ยวหลักสิบวิวหลักล้านใช่ไหมครับ ที่นี่แหละครับ เรารับประกันว่าสามารถใช้คำนี้ได้อย่างไม่ต้องเขอะเขินใดๆ เพราะวิวภูเขาตรงหน้านั้นสวยงามาก มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนกันเป็นทอดๆกว้างสุดลูกหูลูกตา นั่งห้อยขากินก๋วยเตี๋ยวในบรรยากาศแบบนี้ทำเอาลืมรสชาติก๋วยเตี๋ยวไปเลย
หลังจากนั้นเราก็เดินทางกันต่อจนมาถึงที่อำเภอปาย ที่อำเภอปายโด่งดังมานานแล้ว มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวกันเยอะมากๆ บางคนมาอยู่กันเป็นเดือนๆ เพราะงั้นคงไม่ต้องบรรยายกันอีกแล้วนะว่าที่ปายเขามีอะไรดี เราแวะเที่ยวรอบๆอำเภอปายกันเล็กๆน้อยๆตามประสานักท่องเที่ยวที่ดีเมื่อมาแล้วต้อง Check in หลังจากนั้นก็เข้าที่พัก เก็บของ อาบน้ำแต่งตัวและเตรียมพร้อมเพื่อตะลุยราตรี
เป้าหมายหลักของเราในค่ำวันนี้ก็คือถนนคนเดินปาย ที่นี่มีของขายมากมายหลายหลาก ทั้งของกินพื้นบ้านไปจนถึงอาหารนานาชาติ สินค้าข้าวของเครื่องใช้หัตถกรรมต่างๆที่เราไม่ค่อยได้เห็น เสื้อผ้าชาวเขาหรือเสื้อผ้าพื้นเมืองก็มีมากมายจนเลือกซื้อไม่ไหว ใครอยากได้ของฝากเป็นขนมจุ๊บจิบก็มีเยอะจนเลือกไม่ถูก ใครที่เป็นสายแอลกอฮอล์ที่นี่ก็มีร้านนั่งชิลหลายร้าน นั่งจิบเบียร์เย็นๆ ฟังเพลง เม้าท์มอย ก็เพลินดีเหมือนกัน ใครไหวก็อยู่ไปยาวๆ ใครไม่ไหวก็กลับเข้าที่พักไปนอนก่อนได้ แล้วเอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยเจอกันครับ
DAY 4 - เดินทางกลับ
เช้าวันสุดท้ายของทริป เรานัดกันแต่เช้ามืดเพราะจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวหยุนไหล แต่ถ้าใครไม่อยากไปจะเลือกนอนต่อก็ได้นะ เพราะยังไงเราก็ต้องกลับมาที่ที่พักกันอีกรอบอยู่ดี ที่จุดชมวิวหยุนไหลเป็นจุดชมวิวตอนเช้ายอดนิยมอันดับหนึ่งของปาย เป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต้องมาเก็บไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึงปาย ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าถ้าขึ้นมาแล้วจะเจอคนมากมายที่มาโดยพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ถึงคนจะเยอะแต่ก็ถือว่าได้ขึ้นมาชมธรรมชาติ ขึ้นมาสูดอากาศดีเข้าปอด แค่นี้ก็คุ้มแล้วนะ
เรากลับเข้าที่พักอีกครั้งเพื่ออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของ จากนั้นความเศร้าก็บังเกิดเพราะเราจะต้องเดินทางกลับกันแล้ว แหม กำลังเที่ยวเพลินๆอยู่เลย แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ไว้ครั้งหน้าค่อยมาใหม่ละกัน ขากลับเรานั่งรถกันแบบยาวๆ นั่งกันแบบเพลินๆ ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวมากมายจนนับไม่ถ้วนแต่ก็ไม่มีใครอ้วกนะ เพราะชิงหลับไปก่อนไงจะได้ไม่ต้องเห็นโค้ง และไหนๆก็มาเมืองเหนือแล้วแวะกินข้าวซอยแบบต้นฉบับเป็นมื้อเที่ยงกันหน่อยจะเป็นไรไป จากนั้นก็นั่งรถกันต่ออีกแบบยาวๆ ระหว่างทางเปิดดูรูปถ่ายสวยๆในทริปแล้วก็เม้าท์มอยกันไปสนุกสนาน เจอเพื่อนๆใหม่ๆก็แลก Facebook แลก Line กันเผื่อไว้คราวหน้าจะได้มาเที่ยวด้วยกันใหม่ และสุดท้ายรถก็กลับมาจอดที่จุดๆเดิมถือเป็นอันสิ้นสุดทริปอย่างสมบูรณ์
สมาชิกทุกคนเดินทางไปกลับปลอดภัยได้ความทรงจำดีๆกับบ้าน ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้รูปถ่ายสวยๆ แอดมินก็พอใจแล้วครับ ขอบพระคุณสมาชิกทุกคนมากๆที่เปิดใจมาเที่ยวกับเพจสถานีหนีเที่ยวนะครับ และถ้ามีโอกาสไว้กลับมาเที่ยวกันอีกนะ ขอบคุณครับผม